วันพฤหัสบดีที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2557

KAYANO 21 ใกล้มาแล้วกลางเดือนกันยายน นี้!

ตามนั้นครับ Kayano 21 รองเท้าตัวท็อปของ ASICS สายซัพพอร์ต รุ่นใหม่ล่าสุดใกล้คลอดแล้วกลางเดือนกันยายนนี้ โดยสิ่งที่ปรับปรุงขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัดก็คือ น้ำหนักตัวที่ถูกลดทอนลงไป K21 ตัวนี้เป็นรุ่นที่เบาที่สุดในประวัติศาสตร์ Kayano เลยทีเดียว แต่ฟีลลิ่งที่ได้จากการวิ่งบนรองเท้ารุ่นนี้คงไม่ได้แตกต่างไปจากรุ่นก่อน ๆ แต่อย่างใดนั่นก็คือ สัมผัสได้ นุ่ม สบาย เหมาะสำหรับใส่ซ้อม วิ่งยาว ทุก ๆ วัน

มาดูสีที่ถูกเปิดเผยกันออกมาบ้างครับ ผู้ชายและผู้หญิงมีออกมาคนละ 4 สี ตามรูปครับ



สำหรับท่านใดที่สนใจ สามารถสั่งจองได้ครับ ติดต่อเข้ามาที่
http://www.facebook.com/RedRunShop
หรือสนใจสั่งซื้อรองเท้า/ชมรองเท้า/ให้คำแนะนำการวิ่งก็เข้ามาพูดคุยแวะชมกันก่อนได้ครับ

ชม-ซื้อสินค้าในสต๊อก (พร้อมส่ง ไม่ต้องรอ): http://www.redrunshop.com

วันจันทร์ที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

มารู้จักรองเท้าวิ่งในไลน์ของ NIKE กันดีกว่า! (4)

ต่อเนื่องจากคราวที่แล้วที่พูดถึง NIKE FREE มา คราวนี้มาที่เทคโนโลยีที่มีมาเนิ่นนานของไนกี้อย่าง ไนกี้ แอร์ กันบ้างครับ
NIKE_Airทุก ๆ คน ต่างก็รู้จัก ไนกี้ แอร์ (คงเคยจะได้ยินชื่อรองเท้าบาสสุดฮอต ไนกี้แอร์จอร์แดน กันมั่งล่ะครับ) ไนกี้แอร์โด่งดังขึ้นมาในยุค 80 แต่จะมีสักกี่คนที่รู้ว่า ไนกี้แอร์ จริง ๆ คืออะไร
รองเท้าวิ่งไนกี้ที่จัดอยู่ในประเภท "แอร์" นั้นจริง ๆ ใช้ โฟม Cushlon ที่ส่วนของพื้นรองเท้า ซึ่งถึงแม้จะนุ่มและยืดหยุ่นดีแต่ก็หนักและไม่เด้งเท่าที่นักวิ่งหวังไว้
ผลสรุปก็คือ ไนกี้ตัดโฟมบางส่วนออกไปแทนที่ด้วยถุงลมใส่ก๊าซชนิดพิเศษของไนกี้ แน่นอนว่าทำให้น้ำหนักเบาลงและยังเพิ่มสมรรถนะในการรองรับแรงกระแทกอย่างดี
รองเท้าไนกี้รุ่นต่าง ๆ กัน ก็วางถุงลมนี้ไว้ในที่ ๆ ต่างกัน เช่นที่ส้น หรือที่หน้าเท้า ไม่ก็ทั้งสองอย่างเลย
ไอ้ถุงลม(AirBags) ที่ว่านี้ มี 3 ประเภทด้วยกันคือ: Air, Air Max and Zoom Air.
  • Nike Air -> รุ่นสามัญธรรมดา เป็นถุงลมขนาดกลางที่โดยส่วนใหญ่จะถูกจัดให้อยู่ที่บริเวณส้น
  • Air Max -> ถุงลมขนาดใหญ่บักเอ้กที่หนามาก และรองรับแรงกระแทกมาก(จนบางครั้งเกินไป จนทำให้เท้ารู้สึกไม่เสถียรเวลาวิ่ง เราคิดว่าไม่น่าจะเหมาะกับการวิ่ง น่าจะใช้ใส่เดินปกติมากกว่า)
  • Zoom Air -> ถุงลมขนาดบางสุดที่มีต้นแบบมาจากรองเท้าฟุตบอล มักพบในรองเท้าวิ่งรุ่นที่มีพื้นไม่หนามากและโครงสร้างไม่ซับซ้อน
ตัวอย่างรองเท้าวิ่งไนกี้ที่มี เทคโนโลยี Air
Nike Pegasus 30
Nike-Air-Pegasus-30-Mens-Running-Shoe-599205_415_Aเป็นรองเท้าวิ่งของไนกี้ที่ขายดีที่สุดตลอด 30 ปี ที่ผ่านมา มันเป็นรองเท้าที่ยอดเยี่ยมมาก เหมาะกับนักวิ่งหน้าใหม่ เพราะมันให้การรองรับแรงกระแทกที่ดีและก็กระชับเข้ากับรูปเท้าของนักวิ่งส่วนใหญ่
Nike Zoom Vomero 8
NikeVomero8Vomero มีมาถึง 8 รุ่นแล้ว เป็นรองเท้าที่ให้ฟีลลิ่งอ่อนนุ่มกว่า Pegasus แต่ในปี 2013 ที่ผ่านมาความรู้สึกรองรับแรงกระแทกหายไป แต่ก็ยังรู้สึกได้ถึงความอ่อนนุ่ม สบายอยู่ เป็นรองเท้าที่แนะนำสำหรับนักวิ่งผู้แสวงหารองเท้าที่ใส่แล้วรู้สึกสบายที่สุดกับทุกสถานการณ์
Nike Zoom Elite
nikezoomeliteไม่นานมานี้ Zoom Elite เป็นรองเท้าตัวแข่ง/ซ้อมเร็ว ของไนกี้ ที่มีความโดเด่นขึ้นมา มีหยุดพัฒนามาปีหนึ่ง แต่ก็ได้พัฒนาขึ้นมาใหม่และมี  MoFarah แชมป์เหรียญทองโอลิมปิกเป็นทั้งผู้ให้คำแนะนำและก็ใช้รวมถึงการเป็นพรีเซนเตอร์ มันเป็นรองเท้าวิ่งที่ให้ฟีลลิ่งแข็งแกร่ง อย่างยอดเยี่ยม!
Nike Structure 16
0041200331700000_bigเป็นรองเท้าสำหรับคนที่มีเท้าแบบ OverPronate เล็กน้อย

นอกจากนี้แล้วก็ยังมีรองเท้าวิ่ง Trail และก็ตัวแข่งของไนกี้บางตัวที่ไม่ได้พูดถึง แต่เราก็มั่นใจว่าแค่นี้ก็ทำให้คุณ รุ้จักรองเท้าวิ่งจากไนกี้เพิ่มมากขึ้นเยอะแล้วล่ะครับ!


แวะเข้ามาดูรองเท้าวิ่ง หรือพูดคุย สอบถามเกี่ยวกับการวิ่ง ได้ที่ร้าน REDRUNSHOP ครับ
http://www.facebook.com/Redrunshop

วันศุกร์ที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

มารู้จักรองเท้าวิ่งในไลน์ของ NIKE กันดีกว่า! (3)

จากตอนที่แล้วที่พูดถึง Lunarlon แล้ว คราวนี้มาดูเทคโนโลยีของไนกี้ที่มีแนวคิดกับการเคลื่อนไหวของเท้าให้เป็นธรรมชาติกัน นั่นก็คืิอ ไนกี้ ฟรี (NIKE FREE) นั่นเองครับ

Nike Free

nike-free-alt-closure-run-sqdrnbl-hypbl-cybr-free-flex-1-610x406ไนกี้ฟรี(Nike Free) เป็นแนวคิดที่เริ่มขึ้นเมื่อราว ๆ ปี 2005 ซึ่งมีแนวคิดที่ว่าต้องสร้างรองเท้าวิ่งที่ยืดหยุ่นมากขนาดเท่าที่เท้าของนักวิ่งสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างเป็นธรรมชาติ
บางคนก็สงสัยว่า "ฟรี" นั้นก็ยังเป็นรองเท้าที่มีการรองรับแรงกระแทกอยู่มาก ซึ่งนั่นก็หมายความว่าทำให้นักวิ่งไม่รู้สึกของการที่เท้า "กระทบ" พื้น จริง ๆ ซักเท่าไหร่
ก็อาจจะจริงอย่างที่มีคนที่ว่าอย่างนั้น แต่การที่พื้นรองเท้าวิ่งนั้นยืดหยุ่นมาก ๆ ผนวกกับส่วนอัปเปอร์ที่เปิดและกระชับไปกับเท้านั้นก็เป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมแล้ว.
ตัวเลขแต่ละตัวที่ต่อท้ายคืออะไร?
พูดง่าย ๆ ว่า ตัวเลขเหล่านี้บอกถึงความ "ยืดหยุ่น" ของรองเท้ารุ่น "ฟรี" นั่นเอง 1 หมายถึงให้ความรู้สึกเหมือนเท้าเปล่า จนถึง 10 ที่หมายถึงการให้ความรู้สึกเหมือนรองเท้าทั่วไป
ตัวเลขเหล่านี้อาจจะได้รับการเปลี่ยนแปลงใหม่มาเรื่อย ๆ เช่น มี Free 3/5/7 แต่โดยหลักการแล้วตัวเลขที่น้อยกว่าหมายถึงการให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติ (ยืดหยุ่น)มากกว่า
สำหรับปี 2014 มี Free หลาย เวอร์ชัน เช่น
  • FREE 3.0 (มินิมัลสุด ๆ มี Heel2Toe Drop อยู่ที่ 4 มิล)
  • FREE 4.0 (มี Heel2Toe Drop อยู่ที่ 6 มิล)
  • FREE 5.0 (มี Cushioning อาจพูดได้ว่าเป็นรุ่นเริ่มต้นสำหรับใครที่ต้องการลองประสปการณ์แบบ ธรรมชาติ ๆ)
  • FREE FLYKNIT ก็คือ FREE + FLYKNIT รองเท้ารุ่นล่าสุดที่ให้ทั้งความยืดหยุ่นของ FREE และ ความเบา สบาย กระชับ ระบายอากาศได้ดีในส่วนอัปเปอร์จาก FLYKNIT
ขอขอบคุณ - บทความนี้แปลจาก
http://www.runningshoesguru.com/2013/08/nike-running-shoes-2013-understanding-the-nike-line-up/

ท่านใดที่สนใจรองเท้าวิ่ง ต้องการปรึกษาเรื่องวิ่งฯลฯ
ลองเข้ามาแวะชมที่เพจ REDRUN ก่อนได้ครับ 

วันพฤหัสบดีที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

มารู้จักรองเท้าวิ่งในไลน์ของ NIKE กันดีกว่า! (2)

จากความเดิมตอนที่แล้วที่อธิบายถึงเทคโนโลยี FlyKnit ของไนกี้วันนี้มาต่อกันที่เทคโนโลยี Lunar Foam ครับ

Lunar Foam


พื้นรองเท้าวิ่งนั้นทำจากโฟม แต่ละบริษัทก็มีสูตรเฉพาะของตัวเองและสถาปนาเป็นเทคโนโลยีต่าง ๆ ซึ่ง จุดร่วมที่แต่ละบริษัทพยายามทำเหมือนกันคือ ทำให้โฟมนี้ เบามากที่สุดเท่าที่จะเบาได้, นุ่มเพื่อที่จะรองรับแรงกระแทกขณะเท้าปะทะกับพื้น, เด้งเหมือนสปริง และทนทานไม่สึกหรอง่ายไปตามการใช้งาน

แต่ก่อนไนกี้มีโฟมที่เรียกว่า CUSHLON ซึ่งเดี๋ยวนี้ก็ยังพบเห็นอยู่ในรองเท้าวิ่งรุ่น Air ต่าง ๆ

และในปี 2009 ไนกี้ก็ได้พัฒนาโฟมสูตรใหม่ เรียกว่า Lunar Foam ซึ่งต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น LunarLon ซึ่งเป็นโฟมที่ นุ่มที่สุด เบาที่สุดด และรองรับแรงกระแทกได้ดีที่สุดของไนกี้ขณะนี้ Lunarlon นั้นเบากว่าโฟมมาตรฐานอย่าง Phylon ถึง 30%


โดยปกติแล้ว Lunarlon จะถูกฝังอยู่ใน Phylon Foamซึ่งแข็งกว่า เพื่อให้โครงสร้างและซัพพอร์ทในส่วนที่เท้าต้องการ
โดยสรุปแล้ว ถ้าเป็นไนกี้มองหารองเท้าวิ่งโมเดลที่เป็น Lunar... แลย ถ้าคุณอยากได้รองเท้าวิ่งที่ให้ความรู้สึกเบา นุ่ม และรองรับแรงกระแทกได้อย่างนุ่มนวล 

มาลองดูตัวอย่าง รองเท้าที่มีเทคโนโลยี Lunar ของ ไนกี้ ปี 2013 กันครับ:

Nike LunarGlide
nike-lunarglide-5-grey-yellow-3รุ่นยอดนิยมสุดในตระกูล Lunar มีซัพพอร์ตให้ปานกลางสำหรับคนที่มีลักษณะเท้าแบบ OverPronate มีรองรับแรงกระแทกได้ดีเยี่ยมและส่วนอัปเปอร์ที่เบาสบาย เหมาะกับวิ่งซ้อมระยะไกล



nike-lunar-eclipse-3เป็น รองเท้าวิ่ง Lunar ที่มีระดับการซัพพอร์ต สูงสุด แต่ก็มีโครงสร้างคล้ายกับรุ่น Lunar Glide เหมาะสำหรับนักวิ่งเท้าแบนและต้องการการซัพพอร์ต



nike lunarracerเร็ว เบา ทั้งยังรองรับแรงกระแทกได้ดี เหมาะมากกับวันแข่งมาราธอน!



nike-flyknit-lunar-1-2ถึงแม้จะแพงไปนึดนึงแต่ว่ารุ่นนี้เป็นรุ่นที่ยอดเยี่ยมสำหรับ Neutral Runner เลยทีเดียวด้วยการผสมระหว่างเทคโนโลยี FlyKnit+Lunar ทำให้รองเท้านี้ทั้งเบา สบาย เป็นธรรมชาติมากที่สุด



ยังไม่หมดแค่นี้ครับต่อไปพรุ่งนี้ มาดู NIKE's 'FREE' Model กันครับ

ขอขอบคุณ - บทความนี้แปลจาก
http://www.runningshoesguru.com/2013/08/nike-running-shoes-2013-understanding-the-nike-line-up/

ท่านใดที่สนใจรองเท้าวิ่ง ต้องการปรึกษาเรื่องวิ่งฯลฯ
ลองเข้ามาแวะชมที่เพจ REDRUN ก่อนได้ครับ 

มารู้จักรองเท้าวิ่งในไลน์ของ NIKE กันดีกว่า!


NIKE เป็นอีก หนึ่งแบรนด์ชั้นนำในเรื่องรองเท้าวิ่ง มีรองเท้าวิ่งให้เลือกหลากหลายและแต่ละโมเดลก็มีการพัฒนาตนเองมาเรื่อย ๆ ทั้งด้านเทคโนโลยีและโครงสร้าง สีสันภายนอก แล้วเราจะรู้ได้ไงว่าคู่ไหนของไนกี้ที่เหมาะกับเรา?



ถึงแม้ไนกี้บางโมเดลจะมีประวัติศาสตร์ ยาวนาน อย่าง NIKE Pegasus ที่มีถึง 30+ รุ่น ไนกี้ก็ยังนำเสนอรองเท้ารุ่นใหม่ ๆ ที่มีเทคโนโลยีที่ใหม่ขึ้น ชื่อใหม่ ประเภทใหม่ ฯลฯ ในบทความนี้เราจะมาดูกันครับว่าตอนนี้ไนกี้มีเทคโนโลยีอะไรต่าง ๆ ในรองเท้าวิ่งของเขาบ้าง และรองเท้าวิ่งแต่ละประเภทจำแนกอย่างไรและเหมาะกับใคร

ว่ากันด้วยเทคโนโลยี
Flyknit

flyknitFlyknit เป็นเทคโนโลยีใหม่ลิขสิทธิ์ของไนกี้ ที่ใช้การถักทอเส้นใยพิเศษ และถักทอด้วยแทคนิคพิเศษที่ ที่ทำให้ส่วน Upper ของรองเท้าวิ่งนั้นรู้สีกเหมือนถุงเท้า! ด้วยเหตุนี้ รองเท้าที่มีเทคโนโลยี FlyKnit ที่ว่านี้จึงมีน้ำหนักเบา ยืดหยุ่นและถ่ายเทอากาศได้ดี เทคโนโลยีนี้ไนกี้เป็นบริษัทที่จดลิขสิทธิ์ เป็นเจ้าแรก ดังนั้นคาดหวังได้เลยว่าคุณต้องจ่ายค่า Premium ตรงนี้ให้ไนกี้ส่วนหนึ่ง (จากการสำรวจ เทคโนโลยีนี้ สร้างมูลค่าให้รองเท้าไนกี้ โมเดลเก่า มี เพิ่มมากขึ้น 1000+ บาท เลยทีเดียว!)
ตัวอย่างรองเท้าวิ่งที่ดัง ๆ ที่มี Flyknit ก็มี Flyknit Racer (ตัวแข่ง) แล้วก็ Flyknit Lunar1+ (ตัวซ้อม ใช้ใส่ซ้อมได้ทุกวันและมีการรองรับแรงกระแทกที่ดี).

พรุ่งนี้เรามาต่อกัน เรื่อง Lunar Foam ของไนกี้ ครับ
ขอขอบคุณ - บทความนี้แปลจาก
http://www.runningshoesguru.com/2013/08/nike-running-shoes-2013-understanding-the-nike-line-up/

ท่านใดที่สนใจรองเท้าวิ่ง ต้องการปรึกษาเรื่องวิ่งฯลฯ
ลองเข้ามาแวะชมที่เพจ REDRUN ก่อนได้ครับ 

วันอังคารที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2557

ใหม่ เพิ่งออกเดือนกุมภา 2014 - ASICS GEL-SKYLYTE - รองเท้าCushion ที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเพิ่มความเร้ว!!???

สวัสดีครับวันนี้ผมจะมาแนะนำรองเท้าวิ่งตัวใหม่ที่ ASICS เพิ่งเข็นออกมาเมื่อช่วงปลายเดือนภุมภาที่ผ่านมานี้เองครับ ตัวนี้ถือเป็น Speed and cushion Shoe ไลน์ใหม่ของ ASICS เลย เพิ่งออกมาเป็นรุ่นแรก และเหนือสิ่งอื่นใด สีสันสดสวยงดงามโดนใจวัยสะรุ่นมากครัช ใช่แล้ว! ผมกำลังพูดถึง GEL-SLYLYTE นั่นเองงงงงงงง!

มาดูที่สีกันก่อนครับ GEL-SKYLYTE ที่เพิ่งออกใหม่นี้ทำออกมาสองสีนั่นคือ

(1) สีแดงคาดเงิน(Red × Silver) ภายใต้รหัส TJR447-2393

(2) สีกรมคาดเหลือง (Navy blue/Flash Yellow) ภายใต้รหัส TJR447-5007


สีสวยทั้งสองสีเลยใช่มั้ยครับบบบ.... :-)

GEL-SKYLYTE ถูกแนะนำโดย ASICS ว่าเป็นรองเท้าที่ถูกออกแบบมาให้สำหรับนักวิ่งที่คาดหวังว่าจะวิ่งมาราธอนได้ภายในสามชั่วโมงครึ่ง (คือมีฝีเท้าและประสปการณ์พอตัว) ตัว GEL-SKYLYTE มี R-Gel ที่ส้นเท้า แถมยังมีน้ำหนักเบา ถือว่าผสมผสานระหว่าง Cushion และ Speed ได้อย่างลงตัว นอกจากนี้ ยังมี DuoMax สำหรับรองรับอุ้งเท้า ทำให้มันเป็นรองเท้าที่เหมาะกับคนที่มีเท้าลักษณะ Normal จนถึง Over Pronate หน่อย ๆ ทำให้รองเท้าคู่นี้ใช้ได้ทั้งใส่ซ้อมทำความเร็วหรือ วิ่งยาวก็ได้ครับ สารพัดประโยชน์ทีเดียว ซื้อคู่เดียวคุ้มครับ รีวิวของคนญี่ปุ่นที่ทดลองใช้ก็ออกแนวชื่นชอบความเบาและกระชับของมันไม่น้อยทีเดียว --> http://blog.livedoor.jp/ginrun/archives/37196573.html หรือ http://blog.sportshouse.info/archives/52132148.html

โดยในรีวิวบอกว่ามันให้ความรู้สึกอ่อนนุ่ม ไม่เหมือนกับ TartherZeal ที่ให้ความรู้สึกแข็งกระด้างเหมือนนักรบ Sparta!!!???

สำหรับไซส์มีให้เลือกตั้งแต่ 23-29 CM ครับท่านใดที่สนใจ สอบถามติดต่อเข้ามาได้ที่เพจของร้านที่

http://www.facebook.com/RedRunShop

ครับ ยินดีต้อนรับเข้าร้านครับ เข้ามาดูรองเท้าสวย ๆ ซื้อไปซักคู่ แล้วออกมาวิ่งด้วยกัน!

วันพฤหัสบดีที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

ยูกิ คาวาอุจิ - หนุ่มออฟฟิศนีกวิ่งมาราธอนระดับโลก!!!

ไม่นานมานี้กระแสการวิ่งออกกำลังกายของประเทศไทยมาแรงมาก มีหลาย ๆ คนให้ความสนใจกับการวิ่งมากขึ้น คนที่เข้าสู่วงการวิ่งแล้วก็มีส่วนหนึ่งพัฒนาตนเองให้ดีมากขึ้น เช่นทำเวลาได้ดีขึ้น วิ่งได้ไกลมากขึ้น วิ่งไปนาน ๆ ก็หวังว่าจะมีเวลาซ้อมมากขึ้นเพื่อให้ตนเองพัฒนาศักยภาพได้ดีมากขึ้น

แต่จริง ๆ แล้วเราอาจไม่ต้องมีเวลามากขนาด 3-4 ชั่วโมง ต่อวันก็ได้ อย่างน้อยก็สำหรับหนุ่มออฟฟิศญึ่ปุ่นนักวิ่งมาราธอนคนนี้ - ยูกิ คาวาอุจิ . สถิติที่ดีที่สุดของเขา คือ 2:08:14 สำหรับระยะมาราธอน ทั้ง ๆ ที่เขาทำงานประจำเป็นหนุ่มออฟฟิศธรรมดาในช่วง เวลาปกติเท่านั้น - วันนี้เราจะมารู้จักกับเขากันครับ



คาวาอุจิ เป็นนักวิ่งมาราธอนชาวญี่ปุ่น ซึ่งมีชื่อเสียงมากขึ้น หลังจากทำสถิติ 2:08:37 ที่โตเกียวมาราธอนปี 2011 เป็นชาวญี่ปุ่นคนแรก และเป็นลำดับที่สามจากทั้งหมด เขาเป็นที่รู้จักในชื่อ "Citizen Runner" ซึ่งก็มาจากการที่เขาทำงานหาเลี้ยงชีพด้วยตนเองเต็มเวลา ในโรงเรียนแห่งหนึ่งที่ไซตามะ และฝึกซ้อมหลังเลิกงาน!

คาวาอุจิลงแข่งขันบ่อยมาก แต่ละปีลงแข่งนับไม่ถ้วน ระยะตั้งแต่ ฮาล์ฟ ไปจนถึง ultramarathon 50 kg เขามีสไตล์การซ้อมที่เน้นระยะทางมากกว่าความเร็ว เหมือนกับ Arthur Lydriad ตอนนี้เขาเป็นนักวิ่งมาราธอนอันดับต้น ๆ ของญี่ปุ่นเลยทีเดียว เวลาดีที่สุดของเขา คือ 2:08:14 ที่กรุงโซลเมื่อปีที่แล้ว (2013) นอกจากนี้เขายังได้เป็นตัวแทนทีมชาติญี่ปุ่นไปแข่งขันรายการระดับโลกอย่าง World Championship in Athletics และ IAAF World Half Marathon Championchip อีกด้วย

มีบทสัมภาษณที่น่าสนใขเกี่ยวกับการฝึกซ้อมของเขา และอาจเป็นตัวอย่างให้นักวิ่งมือสมัครเล่นอย่างเรา ๆ นำไปปรับใช้จาก Athleticsillusrated มาฝากครับ ใครสนใจรายละเอียดเข้าไปดูเพิ่มเติมได้ที่  http://athleticsillustrated.com/interviews/yuki-kawauchi-interview/

- เขาแทบไม่ได้ซ้อม Speedtraining เลย อย่างเร็วที่สุดเขาก็วิ่งไม่ต่ำเกิน pace 3 นาที/km เท่านั้น ส่วนใหญ่เขาจะซ้อมจ๊อกด้วยความเร็วค่อนข้างคงที่ 5 ครั้งต่อสัปดาห์ นอกเหนือจากนั้น เขาก็มีแค่ Weight Training นิดหน่อย แค่ 15 นาทีเท่านั้น เขามีบ้างที่ลงแข่ง 1.5km และ 5 km เพื่อให้ร่างกายจดจำจังหวะความเร็ว
เขาวิ่ง 1.5 km ที่เวลา 3: 50 และ 5km ที่ 13:58 (แอดมิน: เป็นสถิติที่เร็วมากเลยครับ แชมป์ซีเกมส์ 2013 ที่เนปิดอว์ที่ผ่านมา ที่เป็นชาวเวียดนาม วิ่งใช้เวลา 14:19 และบุญถึงก็ตามมาที่เวลา 14:21 แต่นี่ยูกิ คือเวลาวิ่งซ้อมนะครับ!)

- เขาเลือกทีจะแข่งบ่อย ๆ เพราะเขาคิดว่า การแข่งคือการซ้อมที่ดีที่สุด มีปัจจัย หลาย ๆ อย่างที่เอื้อหนุนให้มันเป็นอย่างนั้น เช่น ถนนที่โล่ง มีคนเชียร์ มีน้ำ มีคนเชียร์ คนดู การจับเวลา อีกอย่างเขาชอบที่จะท่องเที่ยวด้วย เขาอยากไปแข่งรอบญี่ปุ่นและทั่วโลก มันเป็นความสุขของเขา

- เขาวิ่งซ้อมด้วยปริมาณเฉลี่ย  80-100 ไมลื ต่อสัปดาห์

- เป้าหมายระยะยาวของเขาคือการที่เป็นนักวิ่งตลอดชีวิต (No-Retire Runner) และได้ท่องเที่ยวไปทั่วโลก

เป็นไงครับ น่าสนใจทีเดียวใช่มั้ยครับ

บทความนี้แปลและเรียบเรียงโดย REDRUNSHOP ซึ่งรับพรีออเดอร์รองเท้าวิ่ง ดี ๆ ราคาเบา ๆ
สนใจลองเข้ามาแวะชมได้ครับ

http://www.facebook.com/RedRunShop

วันอังคารที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

มาฝึกวิ่งขั้นบันไดกันดีกว่า

วิ่งขึ้นบันไดก็คล้าย ๆ one-leg squat แบบถี่ ๆ คือเป็นการออกกำลังเคลื่อนไหวแบบ plyometric ที่จะทำให้ กล้ามเนื้อ หัวใจ และปอดของคุณแข็งแรงขึ้น ซึ่งท้ายสุดแล้วคุณจะวิ่งได้อย่างดีมากขึ้น



ถ้าเปรียบเทียบกับ  Hill Training แล้ว บันไดนั้นชันกว่า Hill (เนิน) มากบันไดมีความชันประมาณ 65% ในขณะที่เนิน HeartbreakHill ที่บอสตันนั้นมีความชันแค่ 4.5 % นี่เป็นสาเหตุว่าการวิ่งขึ้นบันไดเร่งอัตราการเต้นของหัวใจได้อย่างรวดเร็ว มันทำให้คุณต้องหายใจเร็วขึ้นเพื่อรับออกซิเจนเข้าไปมากขึ้น ดังนี้แล้วการวิ่งขึ้นบันไดทำให้คุณเพิ่ม VO2 max หรือ ปริมาณออกซิเจนมากที่สุดที่คุณจะสามารถใช้มันได้ในการออกกำลังที่หนักหน่วง มันทำให้ร่างกายเราใช้ออกซิเจนและเปลี่ยนมันเป็นพลังงานเร็วขึ้น ถ้าคุณมี VO2 max มากขึ้นก็หมายความว่าคุณสามารถซ้อมได้หนักขึ้นและยาวนานมากขึ้น

ถ้าคุณอยากจะเพิ่มพลังในขาของคุณโดยเน้นความอึดล่ะก็ อาจฝึก "เดิน" ขึ้น-ลงบันได การเดินทำให้หัวใจคุณไม่รับภาระมากเกินไปและทำให้คุณฝึกได้ "นาน" มากขึ้น ใครที่ลงแข่ง UltraTrail จะได้รับประโยชน์จากการฝึกแบบนี้เพราะโดยส่วนใหญ่นักวิ่งต้องรับภาระกับเนินต่าง ๆ ทีสูงชันเหล่านี้เป็นระยะเวลานานทั้งนั้น การฝึกเดินขึ้น-ลง อาจใช้เวลา 20 นาทีสำหรับผู้เริ่มต้น และค่อย ๆ เพิ่มมากขึ้นเป็นอย่างต่ำ 30 นาที และจากนั้นอาจเพิ่มสปีดให้เร็วมากขึ้น

ถ้าคุณโปรขึ้นมาอีกหน่อยการฝึกวิ่งขึ้นบันได ก็ทำให้คุณประหยัดเวลามากขึ้น มันจะทำให้อัตราการหายใจของคุณเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและคุณต้องคุมมันให้อยู่ คุณอาจใช้วิธีวิ่งขึ้นทีละ 2 ขั้น และลงทีละ 1 ขั้นแต่ยังคงความเร็วอยู่เพื่อคงอัตราการเต้นหัวใจให้คงที่ ถ้าคุณอยากจะชนะในการแข่งขัน TNF หรือ UltraTrail อื่น ๆ ที่มีส่วนที่ชันเยอะแล้วล่ะก็ การฝึกขึ้นบันไดก็เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมและน่าสนุกสำหรับคนที่อาศัยอยู่ในเมืองเลยทีเดียว

แปลและเรียบเรียงโดย Redrunshop
สนใจรองเท้าวิ่งทุกประเภท เรารับพรีออเดอร์ทุกยี่ห้อ ลองแวะเข้ามาเลือกลมดูครับ
http://www.facebook.com/redrunshop

อ้างอิง

วันอาทิตย์ที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

โปรตีนสำหรับนักวิ่งมังสวิรัติ



Scott Jurek

มีนักวิ่งระดับท็อป ๆ ไม่น้อยที่เป็นมังสวิรัติ อย่าง Scott Jurek, Brendan Brazier, Rich Roll นั่นคือพวกเขารับประทานแต่ผักและผลไม้ และผลิตภัณฑ์จากมันเท่านั้น ไม่มีเนื้อ นม(จากสัตว์) ไข่ ทั้งสิ้น

มันก็เลยกลายเป็นเรื่องที่คนที่ไม่ได้กินมัง ถามคนกินมังอยู่บ่อย ๆ ว่า แล้ว "คุณเอาโปรตีนจากไหนมาเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับร่างกาย" นักวิ่งบางคนมีความเข้าใจผิด ๆ ว่า ถ้าไม่กินเนื้อก็จะไม่ได้โปรตีน แต่ผิด ถนัดเลยครับมีผักหลายชนิด ที่ให้โปรตีนที่ดี มากจนเรานึกไม่ถึงเลยทีเดียวครับ (จริง ๆ แล้ว เนื้อที่เรากินประจำส่วนใหญ่ ก็มีแค่ เนื้อหมู เนื้อไก่ เนื้อวัว แค่ไม่กี่ประเภทเท่านั้น แต่ผักมีแหล่งโปรตีนที่หลากหลายกว่าอีก)

วันนี้ผมจะมายกตัวอย่างแหล่งโปรตีนแบบมังสวิรัติให้เป็นไอเดียไปลองทานกันดูครับ

1. ผัก : ใช่ครับในผักเขียว ๆ เนี่ยแหละ มีโปรตีนด้วยนะครับ ไม่ใช่ว่าไม่มี อย่าง spinach 1 ถ้วย มีโปรตีน 7 กรัม ถั่วฝักยาวปริมาณเดียวกัน ให้โปรตีน 13 กรัม หรือถ้าเป็นผักถั่ว ก็มีโปรตีน 9 กรัม อะไรประมาณนี้แหละครับ
 
2. เมล็ดกัญชง ผมไม่ได้เขียนผิดนะครับ ผงกัญชงให้โปรตีนถึงกว่า 30 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว เช่ง ถ้าใส่ผงกัญชงในน้ำปั่น 30 กรัมเรากก็จะได้โปรตีนเพิ่มขึ้นมา 11 กรัม!
 
3. นมที่ไม่ได้จากสัตว์. นมถั่วเหลืองหรือนมอัลมอนด์ 1 ถ้วย ให้โปรตีน ถึง 7-9 กรัม และยังให้ความรู้สึกอิ่มท้องอีกด้วย ถ้ากินกับอาหารเช้า ซีเรียลนี่เป็นอาหารมังที่เยี่ยมเลยทีเดียว
 
4. เนยถั่ว อย่าง peanut butter, almond butter หรือ cashew butter. แค่ 2 ช้อนก็ให้โปรตีนถึง 8 กรัม
 
5. Quinoa. อันนี้เป็นเทพของอาหารมังเลยล่ะครับ มันใช้ประโยชน์และทำอาหารได้หลากหลาย และก็ยังอร่อยอีกด้วย และอุดมไปด้วยโปรตีน แค่ 1 ถ้วย ก็ได้ถึง 9 กรัม! (แต่ออกจะหายากในบ้านเราหน่อย)

6. เต้าหู้ ขนาด 110 g ได้โปรตีนประมาณ 9 กรัม และมันก็ถูกมากด้วย
 
7. ถั่ว Lentils. สารพัดประโยชน์มากสำหรับถั่วชนิดนี้ ใช้ทำกับข้าวก็ได้ เบอร์เกอร์มังก็ได้ Lentils 1 ถ้วยให้ โปรตีน ถึง 18 กรัม!

8. ถั่วBeans. pinto, kidney หรือ black beans หนึ่งถ้วย ให้พลฃังงานถึง 13-15 กรัม อิ่มท้องแถมยังให้ไฟเบอร์อีกต่างหาก
 
9. ถั่วเหลืองหมัก Tempeh. อันนี้สุดยอดมาก Tempeh 1 ถ้วย ให้โปรตีน 30 กรัม มากกว่าไข่ 5 ฟอง ซะอีก!
 
10. ขนมปัง Sprouted-grain. เฉพาะขนมปังจากแซนด์วิชที่เป็น sprouted grain ก็ให้โปรตีนถึง 10 กรัม !

เป็นไงครับ กับความรู้ที่นำเสนอวันนี้

สำหรับนักวิ่งที่กำลังมองหารองเท้าดี ๆ ราคาเบา ๆ แวะมาที่ร้านได้ก่อนครับที่

http://www.facebook.com/redrunshop

วันจันทร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

Review ASICS GEL-FujiTrabuco 2 G-TX by REDRUN shop

กระแสวิ่ง Trail กำลังมาแรงในบ้านเราเห็นได้จากจำนวนผู้เข้าร่วมการแข่งขันที่มากขึ้นเรื่อย ๆ วันนี้ REDRUN ขอนำเสนอรองเท้า ASICS ที่ใช้สำหรับวิ่ง Trail โดยเฉพาะ อย่าง ตะวใหม่ที่ออกมากนี้คือ
ASICS GEL-FujiTrabuco 2 G-TX ครับ
สัมผัสแรกเลยคือ GEL-FujiTrabuco 2 เป็นรองเท้าเทรลที่หนักมากครับ คู่หนึ่งหนักถึง 720 กรัม สำหรับไซส์ US 8.5 และมันก็เพียบพร้อมไปด้วยเทคโนโ,ยีต่าง ๆ นา ๆ เยอะทีเดียว แผ่นพลาสติกตรงส่วน Upper  ช่วยเพิ่มความทนทานให้กับตาข่ายส่วนบน ในขณะที่พื้นรองเท้าก็มีการรองรับแรงกระแทกเป็นอย่างดี ตั้งแต่เท้าด้านหน้าถึงอุ้งเท้า พื้นรองเท้าให้สัมผัสเต็มใบ และมั เทคโนโลยี ASICS DuoMax Support System เพื่อสร้างเสถียรภาพของเท้าระหว่างวิ่ง พื้นรองเท้านั้นก็ไม่ธรรมดาครับออกแบบให้ยื้นเกาะผิวถนนที่ไม่เรียบได้เป็นอย่างดี แต่ก็ยังมีความยืดหยุ่นในตัวมันเอง

สนใจรุ่นนี้ลองเข้ามาชมหรือสอบถามได้ครับ
http://www.facebook.com/redrunshop

วันจันทร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

ASICS 33 - What's in the pack?


วันนี้เรามาดู รุ่นต่าง ๆ ใน ASICS 33 กันครับ


ASICS 33 เป็น Natural Running Collection ซึ่งประกอบไปด้วยหลายรุ่นด้วยกันให้เลือกใช้ เรามาดูจุดเด่นของแต่ละรุ่นกันครับ

GEL - EXCEL 33

 - ชาย T410N  หญิง T460N (No advertise in Japan)
 - สำหรับ Under Pronator - Neutral - (Mild) Over Pronator
 - มีทั้ Cushioning ชัดเจนที่สุดใน คอลเลคชันนี้ ที่เป้น GEL ที่ส้นเท้า ชัดเจน ด้านหน้าถูกปรับปรุงให้มีคความยืดหยุ่นและความร้อนได้ดีมากขึ้น
 - ราคาขายที่อเมริกา 125 USD (No information of selling in Japan Official Site)




GEL - ELECTRO 33

 - ชาย TJA 115  หญิง 315
 - สำหรับ Neutral - Over Pronator
 - มีทั้ Cushioning ที่เป้น GEL ที่ส้นเท้า และ Support ในะดับที่เพียงพอสำหรับคนที่ต้องการการ ซัพพอร์ท และการ upper ที่ไร้ตะเข็บ เข้าได้กับรูปร่างเท้าหลายรูปแบบ ใส่ซ้อมบน Track ได้ดี
  - ผลิตที่เวียดนาม
 - ราคาขายที่ญี่ปุ่น 10290 เยน

GEL-ELECTRO33


GEL-ELECTRO33

GEL-ELECTRO33

LADY GEL-ELECTRO33

GEL - SUPER J33 3

 - ชาย TJA 114  หญิง 314
 - สำหรับ Neutral - Over Pronator
 - น้ำหนักเบา (หนักกว่ารุ่นที่เบาที่สุดคือ Gel-Lyte นิดเดียว แต่ที่ต่างจากรุ่น Gel-Lyte คือมีการใส่โฟมที่แข็งขึ้นเล็กน้อยเพื่อซัพพอร์ตฝ่าเท้าในระดับที่เพียงพอโดยไม่เพิ่มน้ำหนักรวม) ใส่ซ้อมสปริ๊นท์ก็ได้ ใส่แข่งก็ดีครับ
  - ผลิตที่อินโดนีเซีย
 - ราคาขายที่ญี่ปุ่น 11340 เยน
 - GEL-ซุปเปอร์ J33GEL-Super J33GEL-Super J33


 LADY GEL-Super J33

GEL - LYTE 33 3

 - ชาย TJA 116  หญิง 316
 - สำหรับ UnderPronator - Neutral - (Mild) Over Pronator
 - น้ำหนักเบาที่สุดในรุ่น (เบามาก ๆ ) ให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติมากที่สุด เทคโนโลี ไร้ตะเข็บทำให้กระชับกับทุก ๆ คน ที่มีรูปร่างฝ่าเท้าที่หลากหลาย
  - ผลิตที่จีน
 - ราคาขายที่ญี่ปุ่น 8715 เยน

GEL-LYTE33 3

GEL-LYTE33 3


LADY GEL-LYTE33 3






ท่านใดที่สนใจชมรายละเอียดรุ่นต่าง ๆ ใน Collection 33 และรุ่นอื่น ๆ ของ ASICS ลองแวะเข้ามาชม ที่ เพจเราได้ครับ >>>

https://www.facebook.com/RedRunShop



วันศุกร์ที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2557

ใหม่! แนะนำ ASICS GEL-NIMBUS 15

ASICS GEL-NIMBUS 15 ใหม่


ASICS GEL-NIMBUS 15 เป็นรองเท้าไฮ-เอนด์ประเภท Cushioning ตัวใหม่ของ ASICS ครับ เหมาะสำหรับนักวิ่งที่มี ธรรมชาติการวิ่งแบบ UnderPronate และ แบบปกติ (Neutral)  เวอร์ชันนี้ได้รับการออกแบบปรับปรุงบริเวณส่วนที่หุ้มหลังเท้า ด้วยเทคโนโลยี FluidFit ใหม่ ทำให้รู้สึกกระชับ สบายมากขึ้นและไม่อึดอัดครับ ซึ่ง ASICS เองโฆษณาว่า จะทำให้เราวิ่งได้ไกลขึ้นและยาวนานขึ้น (Made to take longer. Farther.) บางคนอาจกังวลเกี่ยวกับน้ำหนักครับ แต่ Nimbus ตัวนี้ ASICS ก็ออกแบบมาได้ดีทีเดียว น้ำหนักเฉลี่ยอยู่ที่ 11.5 Oz หรือ ประมาณ 300 กรัมครับ

นอกจากการปรับปรุง ส่วน Upper Fitting แล้ว ASICS ก็ยังขนเทคโนโลยีเพื่อทำให้เราวิ่งได้สบายขึ้น ดีขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้นและทำให้เราเสี่ยงต่ออาการบาดเจ็บน้อยลงเหมือนเดิมครับ อาทิเช่น

Guidance Line® - ช่วยประคองให้เราอยู่ในท่าวิ่งที่ดี
Heel Clutching System™ - ช่วยหุ้มและปรับให้รองเท้ากระชับเข้ากับส้นเท้าของเราได้พอดีครับ
ComforDry™ Sockliner - ช่วยเรื่องระบายอากาศ ทำให้ไม่ร้อนข้างใน รู้สึกวิ่งได้สบายขึ้นเหมือนไม่ใส่รองเท้า และยังช่วยเรื่องการป้องกันกลิ่นเหม็นอับในรองเท้าด้วยครับ
Discrete Eyelets - ก็คือตำแหน่งรูผูกเชือกรองเท้านั่นเองครับ ASICS ออกแบบมาเป็นพิเศษ เพื่อกระจายความตึงของเชือกรองเท้าลงบนหลังเท้าของเรา เพื่อความสบายสูงสุดนั่นเองครับ
Impact Guidance System (I.G.S.®) - ช่วยให้ส่วนต่าง ๆ ของฝ่าเท้าเรา เคลื่อนที่อย่างเป็นธรรมชาติมากขึ้น ตั้งแต่เท้าแตะพื้นยัน Takeoff เลยล่ะครับ
Guidance Trusstic System® - ช่วยให้โครงสร้างกลางเท้าของเราอยู่ในลักษณะที่ดีและทำให้ท่าวิ่งมีประสิทธิภาพมากขึ้น
FluidRide™ - เทคโนโลยี Cushioning ที่ทำหน้าที่รองรับแรงกระแทกได้อย่้างดีเยี่ยมครับ เวอร์ชันนี้ ถูกออกแบบมาให้เบาขึ้นและทนทานขึ้นอีกด้วยครับ

มาลองดูกันครับ ว่าเทคโนโลยีที่ว่าอยู่ตรงไหนบ้าง>>


สำหรับท่านใดที่สนใจก็เชิญชมที่ REDRUN shop ก่อนก็ได้ครับ รับพรีออเดอร์ GEL-NIMBU15 นี้ และ ASICS รุ่น อื่น ๆ อีกหลาย ๆ รุ่นเลยครับ ขอบคุณที่ติดตามครับ